ที่ด้านนอกปรากฏมีคนงานสองคนกำลังชกต่อยกันชุลมุนเนื่องเพราะความมึนเมาคึกคะนองจากฤทธิ์สุราพอสนทนากันถึงหัวข้อที่ความเห็นขัดแย้งจึงเกิดเหตุทะเลาะกันขึ้น ชาติชายพอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าจึงตวาดด้วยน้ำเสียงแฝงพลังกล้าแข็งดุดันอย่างประหลาดชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้คนไม่คิดต่อต้าน
“เฮ้ย! หยุด! กูบอกให้พวกมึงหยุด!!”
น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงอำนาจดุจเจ้าป่าในพงไพรที่บรรดาลูกน้องคนงานเมื่อได้ยินเสียงล้วนบังเกิดความยำเกรง
คนงานทั้งสองต่างหยุดมือจากการชกต่อยราวกับถูกสะกดแต่สายตายังถลึงมองกันด้วยความคับข้องไม่พอใจ
การทะเลาะชกต่อยกันในลักษณะนี้นับเป็นเรื่องปกติธรรมดาในหมู่ผู้ชายใช้แรงงานที่พบเห็นได้ทั่วไปเพียงแต่หากไม่มีใครห้ามปรามเรื่องราวอาจลุกลามถึงขั้นฆ่าฟันเอาชีวิตกันด้วยเรื่องเล็กน้อยซึ่งก็พบเห็นเป็นข่าวได้ทุกยุคสมัย
“พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกัน? เมื่อตะกี๊ยังเห็นนั่งแดกเหล้ากันอยู่ดีๆ
กูให้หลังแป๊บเดียวกัดกันยังกับหมา”
ที่แท้เรื่องวิวาทเกิดจากปัญหาการหยิบยืมเงินกันแล้วฝ่ายที่เป็นลูกหนี้ขอผัดผ่อนอยู่หลายครั้งจนมาครั้งนี้จึงได้มีการทวงถามกันกลางวงเหล้าซึ่งทางฝ่ายคนติดหนี้รู้สึกว่าเป็นการประจานทำให้ตนได้รับความอับอายต่อหน้าผู้อื่นจึงเกิดเรื่องกันขึ้น
เมื่อชาติชายไต่ถามจนได้ความทั้งหมดแล้วพบว่าคนที่เป็นหนี้ยังไม่มีเงินคืน
ส่วนทางฝ่ายเจ้าหนี้ซึ่งก็เป็นกรรมกรเงินเดือนน้อยเหมือนกันปกติค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนก็ตึงมือซ้ำเมียรักก็ใกล้คลอดลูกคนที่สี่ยิ่งต้องใช้เงิน
ไม่ว่าจะด้วยมนุษยธรรมหรือด้วยความเป็นลูกพี่ก็ตามทำให้ชาติชายต้องช่วยเหลืออย่างเลี่ยงไม่ได้
ด้วยความใจกว้างที่มีต่อลูกน้องเมื่อประกอบกับความเด็ดขาดน่าเกรงขามจึงไม่แปลกว่าทำไมลูกน้องทุกคนล้วนให้ความเคารพยำเกรงเขาราวกับสัตว์ป่ากลัวราชสีห์
หลังจากเคลียร์ปัญหาเสร็จเหตุการณ์สงบลงทุกคนต่างก็แยกย้ายนั่งประจำที่กันอีกครั้ง
เศษไม้ที่ใช้ทำฟืนถูกโยนลงกองไฟท่อนแล้วท่อนเล่า
การจับกลุ่มดวลเหล้าพูดคุยกันตามประสาผู้ชายหลังเลิกงานของพวกคนงานก่อสร้างก็ดำเนินต่อไป
เมื่อเหล้าเข้าปากการพูดคุยสนทนาก็ยิ่งมีสีสัน
กอปรกับพรุ่งนี้เป็นวันหยุดจึงไม่มีทีท่าว่าแสงไฟจากการเผาเศษไม้จะมอดดับลงง่ายๆจนเวลาล่วงมาเกือบเที่ยงคืนครึ่ง
ชาติชายขยับตัวลุกขึ้นจากวงเหล้าเพื่อกลับไปยังห้องพักเพราะพรุ่งนี้เขามีนัดสำคัญทิ้งให้พวกลูกน้องต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานรอบกองไฟต่อไปจนเกือบฟ้าสางฟืนท่อนสุดท้ายจึงถูกโยนเข้ากองไฟก่อนที่พวกคนงานจะนอนสลบไสลเมามายหมดสภาพด้วยฤทธิ์ของสุรา
ภายในตรอกเล็กๆท้ายหมู่บ้านชนบทอันทุรกันดารกลับมีเสียงดนตรีและคำร้องจากหญิงงามไพเราะเสนาะหูชวนให้บรรดาเหล่าผู้ชายเคลิบเคลิ้มฮึกเหิมดังแว่วจากด้านในของร้านที่มีป้ายไม้แขวนเหนือประตูทางเข้าเขียนว่า
'ร้านน้ำชาและดอกไม้งาม' หนุ่มใหญ่ร่างสูงล่ำกำยำก้าวเข้ามาในร้านด้วยท่าทางองอาจสง่างามราวกับเทพบุตรจอมพลัง...วันนี้ชาติชายรีบตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถมายังสถานที่อันคุ้นเคย
บุรุษหนุ่มสอดส่ายสายตามองหาสตรีนางหนึ่งที่ทำให้เขาคิดถึงทุกวัน
อันว่าเรื่องกามารมณ์กับผู้ชายนั้นเป็นสิ่งคู่กัน
การผสมพันธุ์ถือเป็นหน้าที่ของผู้ชายและสัตว์เพศผู้ดังนั้นธรรมชาติจึงมอบพละกำลังให้ผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิงดังจะเห็นได้ตามข่าวว่ามีแต่ผู้ชายข่มขืนผู้หญิงไม่เคยปรากฎว่ามีผู้หญิงข่มขืนผู้ชายนั่นเพราะผู้หญิงกระทำไม่ได้หากฝ่ายชายไม่ยินยอมพร้อมรบซึ่งเป็นเครื่องยืนยันประจักษ์ชัดว่าธรรมชาติไม่ได้มอบ
’หน้าที่’
ของการผสมพันธุ์ให้สตรีเพศ...สตรีเพศทำได้แต่รอการผสมพันธุ์จากบุรุษเพศเท่านั้นและยิ่งสัตว์เพศผู้มีร่างกายแข็งแรงมากเท่าไหร่ย่อมต้องมีอารมณ์ทางเพศสูงมากเท่านั้น
ชาติชายเองก็อยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติข้อนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าจะหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายก็อาจเป็นเพราะว่าเขาชอบออกกำลังเล่นกล้ามเป็นประจำทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชาย
’เทสโทสเตอโรน’ เพิ่มขึ้นจนมากกว่าผู้ชายทั่วไปที่ไม่ได้เล่นกล้ามออกกำลังกาย
ฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มขึ้นจึงส่งผลให้เขามีอารมณ์ทางเพศบ่อยมากขึ้นตามไปด้วย
‘โก’ เจ้าของร้านรูปร่างอ้วนเตี้ยรีบออกมาต้อนรับแขกหนุ่มผู้มาเยือนด้วยท่าทีคุ้นเคยเป็นกันเอง
“หายไปหลายวันเลยนะครับ”
เจ้าของร้านกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงแบบชาวจีนที่ยังพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด
“ทิพย์ล่ะ?” ชายหนุ่มถามตรงประเด็น
“แหม มาถึงก็ถามหาแต่หนูทิพย์ หนูทิพย์ตาหลอก” เจ้าของร้านพูดเชิงสัพหยอกก่อนจะพูดต่อไปว่า
“อาหนูทิพย์รอลื้ออยู่นานเลี้ยวเพราะรู้ว่าวังนี้ต้องมาแน่นอง...นั่งพักจิบน้ำชาก่องน๊า
เด่วอั๊วไปตามห้าย แป๊บเลียวๆ”
เจ้าของร้านเชื้อเชิญให้บุรุษหนุ่มเข้ามายังห้องด้านในและจัดหาหญิงสาวสองนางมาบีบนวดฆ่าเวลาระหว่างรอ
ภายในห้องประกอบด้วยเตียงนอน
ม้านั่งและม่านบังตาหลากสีพร้อมกับมีหญิงสาวรุ่นกำดัดหน้าตาดีในชุดกี่เพ้าอีกสองนางทำหน้าที่ยกน้ำชาพร้อมจอกกระเบื้องและถาดขนมขบเคี้ยวที่มีขนมเปี๊ยะกับถั่วตัดมาเป็นของว่าง
พร้อมกับบริการนวดเฟ้นตามร่างกายแกร่งกำยำล่ำสันของชายหนุ่มคล้ายกับเป็นการอุ่นเครื่องก่อนออกสนามรบ
หญิงสาวทั้งสองนางพยายามออกแรงบีบนวดอย่างเต็มกำลังแต่กล้ามแกร่งแน่นของชายหนุ่มที่แข็งปึ้กคล้ายกับไม่ได้ยุบตัวลงตามแรงบีบแม้แต่น้อยหากแต่การบีบนวดสัมผัสกายเนื้อระหว่างบุรุษกับสตรีเฉกนี้ย่อมเป็นการกระตุ้นอารมณ์ความกำหนัดของชาติชายให้พลุ่งพล่านจนยามนี้สัญลักษณ์แห่งความเป็นชายแท้ของเขาเริ่มพองตัวคับแน่นอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์จากเลือดที่สูบฉีดเข้าไปคั่งอยู่ภายในจนเต็มลำแต่ชายหนุ่มยังพึงใจเพียงแค่จับมือถือแขน
หยอกล้อ
เกี้ยวพาราสีตามประสาตัวผู้อารมณ์ขี้เงี่ยนเท่านั้นไม่ได้กระทำสิ่งใดเกินเลย อันที่จริงด้วยรูปร่างหน้าตารวมทั้งบุคลิกที่สง่าผ่าเผยสมเป็นชายชาตรีอกสามศอกของชาติชายก็ทำให้หญิงคณิกาหลายนางที่อยู่ในซ่องห้องน้ำชาแห่งนี้ล้วนอยากได้เขามาเป็นผัวกันจนตัวสั่นระริกเพียงแต่ชายหนุ่มมีสตรีที่หมายปองอยู่แล้วเมื่อเขาไม่เล่นด้วยต่อให้มีสตรีอีกเป็นร้อยก็หาทำอะไรบุรุษอย่างเขาได้ไม่
ในอีกไม่กี่นาทีต่อมาจึงค่อยปรากฎหญิงสาวนางหนึ่งใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มหวานเย้ายวนมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจเดินเข้ามาในห้องอย่างเเช่มช้า
รูปร่างหน้าตาของหญิงสาวนางนี้นับได้ว่างดงามหมดจดสวยสคราญยิ่งกว่าหญิงวัยกำดัดสองนางที่กำลังทำหน้าที่บีบนวดร่างแกร่งกล้ามของชาติชายอยู่ภายในห้องอย่างเทียบไม่ติด
“ทิพย์!”
ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงงามที่อยู่ตรงหน้าของตนด้วยอาการดีใจเหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่น
หญิงงามสองนางหยุดมือจากการบีบนวดและเดินชะม้อยออกจากห้องไปด้วยใจที่นึกเสียดายในความรูปงามกล้ามแกร่งของชายหนุ่มแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะที่ร้านน้ำชามีกฎห้ามแย่งแขกประจำกัน
ชาติชายรีบเดินเข้าไปโอบประคองร่างอันอ่อนช้อยบอบบางของหญิงงามตรงหน้าให้มานั่งเคียงข้างตนพร้อมกับหอมแก้มขาวผุดผ่องเบาๆด้วยความทะนุถนอมรักใคร่ฉันชู้สาว
“พี่คิดถึงทิพย์มากเลยรู้มั๊ย?”
“คิดถึงอะไรกันคะ
เมื่อกี๊ทิพย์ยังเห็นพี่ชายมีความสุขอยู่กับผู้หญิงอื่นตั้งสองคน”
หญิงสาวกล่าวอย่างแง่งอนท่าทางคล้ายกำลังน้อยใจแต่กลับยังคงมีรอยยิ้มเย้ายวนดุจเดิม
“ทิพย์หึงพี่?” ชายหนุ่มถามเชิงหยอกเย้าพยายามสบตาด้วยแต่อีกฝ่ายกลับหลบสายตาด้วยความเขินอายอันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของสตรีเพศที่หากไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นจริงก็เป็นเพียงมารยา!
“ทิพย์จะมีสิทธิ์อะไรไปหึงพี่ได้?” เสียงตอบสดใสไพเราะวิธีพูดแฝงความเย้ายวนไม่น้อย
“ทิพย์ก็รู้ในใจพี่มีแต่ทิพย์คนเดียว
เมื่อไหร่ทิพย์จะเลิกทำงานโรงน้ำชาแล้วไปอยู่กับพี่ซักที
พี่เลี้ยงทิพย์ได้...ทิพย์ไปอยู่กับพี่เถอะนะ” ชาติชายพูดจากความรู้สึกแท้จริง
ถึงแม้เขาจะขี้เงี่ยนมีอารมณ์บ่อยอันเป็นธรรมชาติปกติของผู้ชายแต่ก็ใช่ว่าเขาจะสำส่อนมั่วไม่เลือก
คนที่ขี้เงี่ยนใช่ว่าจะต้องสำส่อนเสมอไป
ในทางตรงข้ามคนที่นานๆจะเงี่ยนซักครั้งใครเล่ารับประกันได้ว่าคนผู้นั้นจะไม่สำส่อน?
“ทิพย์ยังไปตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ เถ้าแก่มีบุญคุณกับทิพย์มาก
ไว้รอให้ทิพย์ได้ตอบแทนบุญคุณก่อนแล้วทิพย์จะไปอยู่กับพี่ชายนะคะ” หญิงสาวมองใบหน้าหล่อคมขาวสะอาดมีหนวดเคราสีดำขึ้นเป็นตอแข็งของชายหนุ่มด้วยสายตาคล้ายวิงวอน
“เมื่อไหร่ล่ะทิพย์ที่จะใช้บุญคุณกันหมด? สองปี สิบปีหรือยี่สิบปี?” ชายหนุ่มถามด้วยอารมณ์ร้อนรน
“ทิพย์เองก็ยังตอบตอนนี้ไม่ได้แต่ทิพย์จะไม่รับแขกอื่นนอกจากพี่คนเดียว...ทิพย์สัญญา
บางทีถ้าหากทิพย์มีลูกกับพี่ ทิพย์ก็คงต้องเลือกลูก”
ประโยคนี้พูดด้วยเสียงแผ่วเบาแต่ทว่ากลับชัดเจนยิ่งสำหรับชาติชาย
“ลูก!!” ชายหนุ่มเบิกตากว้างเพราะทำให้เขาฉุกคิดอะไรบางอย่างได้
ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณความต้องการสืบพันธุ์ของชายฉกรรจ์อย่างเขาให้พุ่งทะยานจนเกือบจะห้ามใจไม่อยู่
หญิงร้านน้ำชาไหนเลยจะมีลูกกับแขกได้!? ถ้าหากหญิงงามตรงหน้ามีลูกกับเขาจริง
นั่นก็หมายความว่าอาชีพหญิงร้านน้ำชาต้องสิ้นสุดลงโดยปริยายแล้วเขาก็จะได้นางในดวงใจมาเชยชมข้างกายทุกเช้าค่ำสมดังปรารถนา
“ทิพย์มีลูกกับพี่นะ” ชาติชายพูดขณะจับมือเรียวเล็กทั้งสองข้างของหญิงสาวมากุมไว้กับแผงอกแกร่งกล้ามนูนแน่นของตัวเขาเอง
แขนใหญ่แข็งแรงของชายหนุ่มเมื่อเทียบกับแขนที่เรียวเล็กของหญิงสาวช่างดูเหมือนท่อนซุงกับกิ่งไม้แห้ง
ไหนเลยหญิงสาวจะขัดขืนได้ยิ่งบวกกับความหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้าจะมีหญิงสาวที่ไหนคิดขัดขืนปฏิเสธได้ลง
“นะทิพย์”
ชาติชายเร่งเร้าอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่นแต่หญิงสาวหาได้ตอบไม่
“ถ้าทิพย์ไม่ตอบพี่ๆจะถือว่าทิพย์ตกลงแล้วนะ”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างรวบรัด
หญิงสาวยังคงหลบหน้าไม่ตอบคำเช่นเดิม
เมื่อเป็นเช่นนี้ไยมิใช่การตอบรับ? ชายหนุ่มที่อารมณ์เพศกำลังคุกรุ่นใช้มือหยาบแข็งแรงกระชากเสื้อตัวเองโยนกองกับพื้น
XXX ฉากติดเรท XXX
ชาติชายนอนกกกอดหญิงงามไว้ในอ้อมอกตลอดทั้งวันทั้งคืน จากทิวาวารสู่ยามราตรี จากราตรีกาลสู่รุ่งอรุณแห่งเช้าวันใหม่ชายหนุ่มจึงจำใจจูบลากับหญิงสาวเพราะมีภาระหน้าที่ต้องกลับไปกระทำ...To be continued.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น