วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2562

คู่ฟัดสัมผัสต้องห้าม (The Rivals for the Forbidden Touch) ตอนที่ 7 - เพศสัมพันธ์

ร่างสูงล่ำของยอดชายเคลื่อนห่างขึ้นเขาไปโดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกสิบเอ็ดคนติดตามอยู่ด้านหลัง จนในที่สุดทั้งหมดหายลับกับมุมโค้งของเส้นทางในขณะที่ชาติชายเดินกลับห้องพักด้วยอาการหัวเสียเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเจอใครที่แข็งแกร่งมีพละกำลังเสมอกับตนมาก่อนพอหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ไม่อาจเอาชัยอีกฝ่ายได้ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด หากทว่าทันทีที่ชาติชายก้าวเข้ามาภายในห้องพักหลังน้อยอับกลิ่นส่วนตัวที่ผนึกกลิ่นอับแห่งความเป็นชายของเขากับยอดชายไว้ด้วยกัน... ความขุ่นใจทั้งปวงเมื่อครู่คล้ายมลายหายสิ้นกลับค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเงี่ยนกระหายอยากมาแทนที่อย่างช้าๆความรู้สึกเฉกนี้หากอีกฝ่ายเป็นสตรีเพศตรงข้ามชาติชายคงจะตามจีบไม่ว่างเว้นแต่ทว่ายอดชายนั้นเป็นบุรุษ เพศเดียวกันกับตน...
‘ผู้ชายกับผู้ชายมันจะเป็นไปได้ยังไงวะ?’ ชายหนุ่มถามค้านในใจเพราะไม่เชื่อว่าความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นได้กับตนเองและอีกประการคือเขาต้องการมีลูกอีกคนรวมทั้งกำลังจะสร้างครอบครัวใหม่กับช่อทิพย์ ด้วยนิสัยของชาติชายถึงจะเป็นคนอารมณ์ร้อนขี้เงี่ยนแต่ก็ไม่ใช่คนสำส่อน เขาจึงไม่อยากมีความรู้สึกเช่นนี้กับคนอื่นอย่าว่าแต่ยอดชายที่เป็นลูกผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันยิ่งเป็นไปไม่ได้ ชายหนุ่มยืนหลับตากรามขบแน่นจนนูนเป็นสันสองมือแข็งแรงกำหมัดคล้ายกำลังพยายามสะกดระงับอารมณ์ความลึกเร้นเร้าใจที่เริ่มพลุ่งพล่านทรมานในความรู้สึก...ถึงแม้กลิ่นเหงื่อเหม็นอับแมนๆที่ผสมกันในห้องจะมอบความสุขตื่นเต้นและฮึกเหิมให้กับชาติชายแต่ทว่าอีกด้านก็สร้างความประหวั่นพรั่นใจเป็นกังวลให้กับเขาไปพร้อมกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะเรียกความรู้สึกเช่นนี้ว่าความสุขหรือความทุกข์แล้วความรู้สึกไหนมีมากน้อยกว่ากัน ยิ่งครุ่นคิดยิ่งรู้สึกแปลกใจว่าทำไมที่ผ่านมาตนเองเคยได้กลิ่นกายบุรุษอื่นแต่กลับไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเร้นลึกเช่นนี้มาก่อน...
กลิ่นตัวของมนุษย์นั้นมีความเฉพาะเจาะจงต่อกัน ‘กลิ่น’...สามารถทำให้เกิดรักแรกพบเช่นเดียวกับที่กลิ่นก็สามารถทำให้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนรู้สึกเกลียดขี้หน้ากันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันโดยไม่มีเหตุผล หาใช่ว่ากลิ่นกายของบุรุษเพศคนไหนก็ได้ที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ต่อบุรุษด้วยกันเช่นนี้หากแต่ต้องเป็นกลิ่นเหงื่อและฟีโรโมน(เคมี)ที่เข้ากันได้และเกิดปฏิกิริยาต่อกันเท่านั้นโดยไม่จำกัดเพศว่าจะเป็น ชายกับหญิง หญิงกับหญิงหรือแม้แต่ชายกับชายล้วนแล้วแต่เป็นไปได้ทั้งสิ้น มนุษย์ให้คำจำกัดความของสิ่งนี้ว่า “พรหมลิขิต”...นับเป็นความลับของธรรมชาติที่น้อยคนจะล่วงรู้ กลิ่นตัวที่ทำปฏิกิริยากันก็คือ ‘ยาปลุกเซ็กส์’ ตามธรรมชาติอย่างดีที่ไม่ต้องซื้อหา...เป็นยาปลุกเซ็กส์ที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อผู้เป็นเจ้าของกลิ่นทั้งสองคนเท่านั้น เช่นนี้แล้วกลิ่นตัวของชายหนุ่มทั้งสองคนที่ผสมกันอยู่ในห้องขณะนี้แท้จริงก็คือยาปลุกเซ็กส์ที่พวกเขาช่วยกันปรุงขึ้นเองจากความบังเอิญโดยที่บุรุษหนุ่มทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ตัว หากแต่ครั้งนี้ชาติชายจะไม่ยอมปล่อยให้ความกำหนัดรัดรึงแบบเมื่อเช้าจู่โจมเล่นงานจิตใจลูกผู้ชายของเขาโดยที่ไม่ทำอะไร...ชายหนุ่มจึงลืมตาพร้อมกับเดินไปหยิบลูกเหล็กที่วางเรียงรายอยู่ในห้องพักขึ้นมาบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆอย่างหักโหมบ้าพลังเพื่อรวมสมาธิโฟกัสไปที่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและเมื่อเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนที่ออกแรงยกน้ำหนักมากขึ้นก็ทำให้เลือดที่คั่งอยู่ภายในดุ้นเอ็นอุ่นลดน้อยลงตามลำดับส่งผลให้ลำควยที่แข็งเป็นลำจนดันให้เป้ากางเกงโป่งนูนเป็นห่อหมกคลายตัวลงได้บ้างถึงแม้จะเป็นวิธีระงับบรรเทาชั่วขณะที่ปลายเหตุแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ควยแข็งโด่ทรมานอยู่อย่างนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย
‘ไอ้ยอด...ซักวันกูต้องคว่ำมึงให้ได้!’ ชาติชายบอกตนเองในความรู้สึกขณะที่ออกแรงยกลูกเหล็กเล่นกล้ามแขนอย่างหนัก
หลังจากเปิดศึกปะทะกล้ามกับชาติชายที่เชิงเขาจนเหงื่อชุ่ม..ยอดชายก็นำลูกน้องทั้งสิบเอ็ดคนขึ้นเขามาขุดปรับหน้าดินโดยพยายามเลิกคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่หากแต่กลิ่นเหงื่อของคู่ต่อสู้ที่ยังติดตามมัดกล้ามและผิวกายหนาหยาบของเขาก็ส่งกลิ่นไอความแมนเท่ของชาติชายออกมาเป็นระยะกระตุ้นให้ยอดชายรู้สึกฮึกเหิมตื่นตัวไม่ต่างจากอีกฝ่ายเช่นกันนั่นเพราะตามธรรมชาติแล้วกลิ่นอับของเพศผู้ย่อมกระตุ้นความรู้สึกอยากต่อสู้แข่งขันระหว่างเพศผู้ด้วยกันเองอันเป็นสัญชาตญาณดิบเถื่อนของสัตว์ชั้นสูงทุกชนิดที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอมากน้อยต่างกันไปตามฮอร์โมนเพศชายของแต่ละคน ยอดชายขุดแบกดินมาถมที่จนเม็ดเหงื่อผุดพรายไหลหลั่งทั่วตัวกระทั่งเวลาล่วงมาจวนใกล้จะเลิกงาน...จู่ๆฝนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตกก็เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ทันให้เขาและพวกลูกน้องตั้งตัวจนทำให้ทั้งหมดต้องเลิกงานก่อนเวลา
________________________________________________________________________________________________________
* สัตว์ชั้นสูง คือ สัตว์ที่สืบพันธุ์โดยอาศัยเพศ

“ผมว่าลูกพี่อย่าพึ่งกลับห้องดีกว่า เดี๋ยวมีเรื่องกันอีก” ไอ้ดำพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวลแทนอีกฝ่ายขณะเดินลุยฝนกันลงมาถึงเชิงเขา
“ถ้ามันอยากมีเรื่องอีกก็ช่วยไม่ได้ว่ะ เดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก ถ้ามึงจะไปด้วยก็ตามมาเจอกันที่รถแต่เร็วหน่อยนะมึง” ยอดชายพูดชักชวนอยู่ในทีก่อนจะเดินเปียกฝนกลับไปยังห้องพักของตนในขณะที่ลูกน้องคนอื่นๆก็แยกย้ายกันกลับห้องไปหมดแล้ว
หลังจากที่ชาติชายใช้แรงออกกำลังเล่นกล้ามเสร็จใหม่ๆตลอดทั้งร่างแกร่งจึงร้อนผ่าวเนื่องจากเลือดกำลังสูบฉีดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยง...ท่อนลำควยจึงยังไม่อาจผงาดง้ำเหมือนช้างสารที่ตกมันหากได้อาละวาดออกแรงจนเหนื่อยล้าก็จะสงบลงได้ชั่วคราวชายหนุ่มจึงฉกฉวยโอกาสอันสั้นนั้นมาเอนกายนอนพักเอาแรงบนเตียงเพื่อจะลุยงานต่อคืนนี้ขณะที่ข้างนอกฝนตกอากาศเย็นสบายไม่นานชาติชายจึงเคลิ้มหลับไปก่อนที่ควยจะทันแข็งขึงขึ้นมาอีกครั้ง...ยอดชายกลับมาถึงห้องพักก็เห็นชาติชายกำลังนอนหลับเนื่องจากหักโหมออกกำลังตลอดทั้งร่างเกือบเปลือยเหลือเพียงกางเกงในเก่าๆตัวเดียวที่ใส่นอนอวดกล้ามเนื้อหนั่นแน่นแข็งเป็นมัดทั่วสรรพางค์กาย ดวงหน้าอันหล่อคมของผู้ที่นอนหลับตาพริ้มตรงหน้าขณะนี้แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับที่แผลงฤทธิ์อาละวาดเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา
ยอดชายสูดเอายาปลุกเซ็กส์ที่ปรุงขึ้นจากหยาดเหงื่ออับชื้นของเขากับผู้ที่นอนหลับตรงหน้าเข้าไปเพียงไม่กี่ลมหายใจ...อาวุธประจำกายลูกผู้ชายก็พลันแข็งขึงโด่ตั้งลำขึ้นมาเองอย่างไม่ยากเย็น ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกกับความรู้สึกที่อยู่เหนือการควบคุมของตนจึงสบถด่าออกมาเบาๆคำหนึ่ง
“เหี้ยเอ๊ย...”
‘อาจเป็นเพราะไม่ได้ตีหม้อมาหลายวันเลยเป็นแบบนี้’ ยอดชายปลุกปลอบให้กำลังใจตนเองในความคิดว่าสาเหตุที่ควยโด่แข็งเป็นลำอยู่ตอนนี้เป็นเพราะไม่ได้ร่วมรักหลับนอนกับสตรีมาหลายสัปดาห์เพราะมัวแต่ทำงาน ร่างสูงใหญ่ถอดชุดทำงานที่เปียกฝนโยนกองไว้ที่ปลายเตียงของตนแล้วจึงเดินมุ่งตรงไปอาบน้ำก่อนจะแต่งตัวแล้วก้าวออกจากห้องไปด้วยความเร่งรีบ จากห้องพักหัวหน้าคนงานมายังที่จอดรถนั้นมีระยะเพียงไม่กี่สิบเมตรพริบตายอดชายก็มานั่งอยู่ในรถกระบะสีดำและพึ่งจะสตาร์ทเครื่องยนต์ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้ดำวิ่งมาถึงพอดี
“ตกอะไรกันนักหนาวะเนี่ย?” ไอ้ดำบ่นฝนฟ้าขณะเปิดประตูรถเข้ามานั่งฝั่งผู้โดยสาร
“มึงยังจำที่ไอ้แดงเคยเล่าเรื่องโรงน้ำชาท้ายหมู่บ้านได้มั้ยวะ?” ยอดชายถามด้วยน้ำเสียงปนความหื่นกระหายอยู่ลึกๆ
“อ๋อ ที่แท้ลูกพี่จะไปที่นั่น?”
“ก็เออดิ กูอยากรู้ว่าผู้หญิงที่นี่จะสวยสู้หญิงพระนครได้หรือเปล่าหรือมึงไม่อยากไปดู?” ยอดชายแกล้งพูดดักแต่จริงๆก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็คงอยากรู้เหมือนกัน
“อยากดิพี่ ก็ดีเหมือนกันฝนตกๆอากาศแบบนี้ แค่คิดว่าจะได้ไปนั่งดื่มเหล้าแล้วก็มีผู้หญิงสวยๆมาคอยบีบนวดก็คึกคักซู่ซ่าบอกไม่ถูกแล้ว ฮ่าๆๆ” คำตอบของไอ้ดำช่างตรงใจกับยอดชายนักสมแล้วที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันมานานหลายปี
ยอดชายยิ้มกริ่มด้วยความพอใจก่อนจะเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปยังจุดหมายท้ายหมู่บ้าน ตลอดข้างทางที่ขับรถผ่านมีแต่ดงไม้เป็นส่วนใหญ่จะเห็นบ้านคนอยู่บ้างเป็นระยะๆตลอดเส้นทางที่คดเคี้ยวขรุขระ อีกไม่กี่นาทีต่อมารถกระบะสีดำก็มาถึงบริเวณท้ายหมู่บ้านซึ่งมองเห็นสิ่งปลูกสร้างโดดเด่นอยู่เพียงหลังเดียวที่หน้าร้านมีโคมสีเขียวแขวนอยู่เหนือประตูซ้าย-ขวาเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้รู้ว่าที่นี่มี ‘หญิงบริการ’ ไอ้ดำอ่านป้ายไม้ที่แขวนอยู่เหนือประตูหน้าร้าน...
“ร้านน้ำชาและดอกไม้งาม...ที่นี่แหละลูกพี่ที่ไอ้แดงบอก” ไอ้ดำพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนเด็กเจอร้านขายของเล่น อันที่จริงผู้ชายส่วนใหญ่ในยุคนั้นล้วนมีทัศนคติว่า ‘ผู้หญิงก็คือของเล่นสำหรับผู้ชาย’ เพศชายจะได้รับการยกย่องเชิดชูมากกว่าเพศหญิงซึ่งก็ไม่แปลกที่การกดขี่ทางเพศจะพบเห็นได้ทั่วไปในสมัยนั้น
ยอดชายขับรถเข้าไปในลานจอดที่อยู่ด้านข้างโรงน้ำชา ถึงแม้จะไม่ใช่วันหยุดแต่ที่ร้านน้ำชาแห่งนี้ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการอยู่เรื่อยๆไม่ขาดสาย เสียงดนตรีขับกล่อมกับเสียงร้องเพลงนุ่มนวลไพเราะของหญิงสาวจากด้านในของร้านดังคลอกับเสียงฝนตกยิ่งสร้างบรรยากาศอันน่ารื่นรมณ์ ทันทีที่ยอดชายกับไอ้ดำเดินเข้ามาในร้านก็มีหญิงสาวแรกรุ่นสองนางหน้าตาจิ้มลิ้มรูปร่างสะโอดสะองตรงเข้ามาต้อนรับแบบถึงเนื้อถึงตัวหากแต่สายตาคมกล้าของยอดชายกลับจับจ้องอยู่ที่หญิงงามนางหนึ่งที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวทีก่อนที่ชายหนุ่มทั้งสองจะถูกพามานั่งยังโต๊ะรับแขกโดยมีหญิงงามสองนางนั้นทำหน้าที่รินน้ำชาให้
“ตามเถ้าแก่ร้านให้พี่หน่อย” ยอดชายบอกกับหญิงที่ทำหน้าที่รินน้ำชาให้กับตนเอง หญิงสาวรับคำชายหนุ่มคราหนึ่งก่อนจะเดินหายเข้าไปยังหลังร้าน
“มึงจะเปิดห้องมั้ย?” ยอดชายถามลูกน้องคนสนิท
“ไม่ดีกว่าลูกพี่ ผมขอแค่มีเหล้ากับสาวสวยแบบนี้บีบนวดก็พอ...” ไอ้ดำตอบพลางเอามือโอบร่างบอบบางของหญิงงามที่นั่งบีบนวดอยู่ข้างกาย...”ใช่มั้ยจ๊ะ น้องสาว” พร้อมกับหอมฟอดไปหนึ่งทีที่พวงแก้มอ่อนนุ่ม
คำว่า ’เปิดห้อง’ ย่อมเป็นที่รู้กันว่าหมายถึงการซื้อบริการทางเพศซึ่งต้องใช้ห้องเฉพาะที่จัดแยกไว้ต่างหาก
ไม่นานก็มีชายอ้วนเตี้ยเดินออกมาจากด้านในของร้านโดยมีหญิงสาวที่รินน้ำชาคนเดิมเดินตามมาด้วย
“ไม่ทราบว่าคุงชายมีอะไรให้รับใช้ครับ” เถ้าแก่ร้านพูดด้วยท่าทางพินอบพิเทา
“ขอเหล้าให้ลูกน้องผมที่นึงแล้วก็เปิดห้องให้ด้วย” ยอดชายกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึมใบหน้าหล่อเข้มเรียบเฉยเย็นชาอันเป็นลักษณะบุคลิกของเขามาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าภายนอกจะดูเรียบเฉยแต่ภายในกับคุกรุ่นด้วยแรงปรารถนาราคะของบุรุษเพศอย่างเปี่ยมล้น
“ล่ายๆรับรองว่าคุงชายต้องติกใจบริกางของร้านเราอย่างแน่นอง ว่าแต่คุงชายต้องกางให้หญิงงามคนไหนเข้าไปรับใช้ในห้องเหรอครับบอกมาล่ายเลย” โกเจ้าของร้านถามด้วยสีหน้ายินดีในขณะที่ดวงหน้าของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆก็เปี่ยมความคาดหวังมองมาที่ยอดชายอย่างอ่อยเหยื่อด้วยหวังว่าชายหนุ่มผิวเข้มจะเลือกใช้บริการตนเพราะความกำยำหล่อล่ำของเขาช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจยิ่ง จากที่เป็นหญิงบริการมานานผ่านลูกค้ามาก็ไม่น้อยทำให้รู้ว่านอกจากชาติชายที่เป็นลูกค้าประจำของที่นี่แล้วจะหาผู้ชายหุ่นล่ำๆแบบนี้อีกไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่สายตาของยอดชายนั้นกลับจับจ้องไปที่สตรีอีกนางแทน
“ผู้หญิงที่ยืนร้องเพลงบนเวที...” เป็นคำตอบของชายหนุ่ม
“อ๋อ...อาหนูทิพย์!! แหมคุงชายนี่ตาถึง” สีหน้าของเถ้าแก่เจ้าของร้านคล้ายกับมีความกังวลเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อไปว่า “ปกติอาหนูทิพย์จะรับแขกเฉพาะที่อีต้องกาง อีไม่รับแขกซี๊ซั๊ว แต่เหลียวอั๊วจะลองพูดห้าย...เชิญคุงชายขึ้นเหล่าเต๊งก่อง แปปเลียวๆ” โกเจ้าของร้านปรายตาให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างตนทำหน้าที่พายอดชายขึ้นไปรอยังห้องว่างชั้นบน ซึ่งถึงแม้หญิงสาวจะผิดหวังที่ไม่ได้ร่วมรักกับชายหนุ่มรูปงามแต่ก็ยังทำตามคำสั่งของโกเจ้าของร้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยอดชายกับไอ้ดำล้วนลืมเลือนคำเตือนของไอ้แดงตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไปจนหมด...
”มีคนนึงชื่อทิพย์สวยสุดในร้านเลยครับแต่ลูกพี่ชายอีกคนเค้าจองแล้วคนนี้แตะไม่ได้ลูกพี่เค้าหวง” คำเตือนที่ไอ้แดงเคยบอกไว้หลายวันก่อนทว่าก็เหมือนหมอกควันที่ถูกสายลมแห่งกาลเวลาพัดจนเลือนลางจางหายหมดสิ้น
พอขึ้นมาถึงชั้นบนก็พบว่ามีห้องที่ซอยย่อยติดๆกันอีกหลายห้อง ยอดชายเดินเข้าไปยังห้องๆหนึ่งที่หญิงสาวนำทาง พอก้าวเข้าไปในห้องก็พลันได้กลิ่นหอมละมุนของสมุนไพรนาๆชนิดซึ่งล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลายเคลิบเคลิ้ม
ยอดชายนั่งรอพลางยกจอกเหล้าที่วางไว้ต้อนรับแขกขึ้นกระดกส่งของเหลวสีอำพันลงคอ เพียงชั่วอึดใจหญิงงามสะคราญโฉมที่หมายปองไว้ก็เดินชดช้อยเข้ามาในห้องที่จัดแต่งไว้อย่างสวยสดงดงาม หน้าตากร้านแดดหล่อเข้มดูสุขุมของยอดชายคล้ายมีอำนาจสะกดสายตาของช่อทิพย์ให้หยุดนิ่ง หัวใจของหญิงสาวกระตุกวูบ สองแก้มแดงซ่านร้อนร่านขึ้นมาในทันที คำกล่าวที่ว่า “สองวันจาก...นารีเป็นอื่น” ดูจะไม่ใช่คำพูดที่เลื่อนลอยเกินจริงแต่อย่างใด
ด้วยรูปร่างของช่อทิพย์เองที่อวบอัดเต่งตึงด้วยเลือดสาวกอปรกับใบหน้าที่สวยผุดผาดหยาดเยิ้มก็ทำให้ใบหน้าคร้ามเข้มของยอดชายเปี่ยมล้นไปด้วยความหื่นกระหายได้เช่นกัน เมื่อความเงี่ยนของชายหนุ่มมาเจอกับความร่านของหญิงสาวฉากรักฉากสวาทของชายหญิงจึงกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
อันที่จริงก็เหมือนดังที่โกเจ้าของร้านบอกว่าช่อทิพย์นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะรับแขกคนไหนบ้างเพราะด้วยรูปโฉมที่งดงามสะดุดตากว่าหญิงงามคนอื่นทำให้ถึงแม้จะเลือกแขกก็ไม่ได้ทำให้รายได้ของร้านลดลงแต่อย่างใดนับว่าเป็นสิทธิพิเศษกว่าหญิงขายบริการคนอื่นที่ไม่มีสิทธิ์เลือกแขก ที่ผ่านมาด้วยความกำยำหล่อล่ำของยอดชายเขาจึงเป็นฝ่ายเลือกสาวมาเชยชมแต่ครั้งนี้เขาคงไม่รู้ตัวว่าเป็นฝ่ายถูกช่อทิพย์เลือกด้วยเหตุผลเดียวกัน วินาทีแรกที่ยอดชายเดินเข้ามาในร้านกับลูกน้อง ด้วยความสูงใหญ่กำยำโดดเด่นองอาจสมชายชาตรีของเขาก็ทำให้สายตาของช่อทิพย์มองเห็นอยู่ก่อนแล้ว บุคลิกของยอดชายนับว่าโดดเด่นกว่าทุกผู้คนที่หล่อนเคยเจอยกเว้นก็เพียงแต่ชาติชายคนเดียวเท่านั้นที่พอจะเป็นคู่ปรับที่สูสีกัน...
ยอดชายใช้ท่อนแขนแข็งแรงโอบประคองเอวบางให้มานั่งข้างตน...เมื่ออยู่ใกล้ระยะประชิดยิ่งทำให้ช่อทิพย์มองเห็นแววตาของชายหนุ่มที่แสนเย็นชาทอประกายความคมกล้าแบบลูกผู้ชาย... ช่างเป็นดวงตาที่ทรงเสน่ห์อย่างเหลือร้าย แววตาที่เหมือนจะสามารถแช่แข็งสตรีทุกนางที่ได้สบตากับเขาให้เข้าไปซุกในอ้อมอกอุ่นล่ำกล้ามได้อย่างไม่ยากเย็นต่างจากแววตาของชาติชายที่พร้อมจะเผารนหลอมละลายหัวใจสาวๆให้อ่อนระทวยคาอกแกร่งกล้ามของเขาเช่นกัน หนึ่งร้อนแรงหนึ่งเย็นชานับเป็นเสน่ห์แห่งความเป็นชายที่แตกต่างอย่างสุดขั้วแต่ก็น่าหลงใหลด้วยกันทั้งคู่ในความคิดของช่อทิพย์
“พี่ชื่อยอดชาย เรียกพี่ว่ายอดก็ได้” ยอดชายแนะนำตัวให้อีกฝ่ายรู้จักตามมารยาท
“ขอทิพย์เรียกพี่ว่า พี่ชาย ได้มั้ยคะ?” ช่อทิพย์ยิ้มอย่างมีเลศนัยโดยที่ยอดชายหารู้ไม่ว่าสาเหตุที่หล่อนต้องการเรียกเขาว่าพี่ชายนั้นก็เพราะจะได้ไม่พลั้งปากเรียกสับสนระหว่างชายหนุ่มทั้งสองคนเพราะที่แล้วมาช่อทิพย์บอกกับชาติชายเพียงว่าตนสามารถเลือกแขกได้และจะบริการแต่เขาเพียงคนเดียวโดยจะขอเพียงทำหน้าที่ต้อนรับกับร้องเพลงดีดพิณให้แขกคนอื่นฟังเท่านั้นหากชาติชายรู้ว่าตนแอบรับแขกคนอื่นด้วยเช่นนี้ด้วยความเลือดร้อนของเขาจะต้องเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน
ยอดชายไม่ได้สงสัยในคำขอของอีกฝ่ายเพราะปกติบรรดาลูกน้องก็ชอบเรียกเขาว่าพี่ชายอยู่แล้ว เขามาที่นี่ก็เพื่อปลดปล่อยความกระสันเงี่ยนทางเพศที่อัดแน่นอยากหาตัวเมียมาผสมพันธุ์ตามความรู้สึกพื้นฐานที่ธรรมชาติให้มาเท่านั้น ชายหนุ่มยิ้มให้เป็นการตอบรับคำขอ...ใบหน้าหล่อเข้มที่มีหนวดเคราเขียวครึ้มขึ้นเป็นตอสั้นๆเริ่มซุกไซร้ไปตามซอกคอระหงขาวราวหิมะ เคราแข็งสากของชายหนุ่มเริ่มทิ่งแทงถูไถเนื้ออ่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้สร้างความสยิววาบหวามให้แก่ช่อทิพย์อย่างบอกไม่ถูกจนหญิงสาวถึงกับร้องครางออกมาเป็นระยะ ...“อื๊มมม...อ๊าา”
XXX ฉากติดเรท XXX

แต่ทว่ากระดาษหรือจะห่อไฟได้จนกระทั่งในที่สุดชาติชายก็รู้ความจริงเข้าจนได้!...ยอดชายกับชาติชายจะต้องตายกันไปข้างนึงหรือไม่? โปรดติดตามตอนต่อไป...To be continued.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น